นางสนองพระโอษฐ์ราชสำนักไทย บทบาทสำคัญ เทียบกับหลายประเทศระบอบกษัตริย์

ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2567 ได้เผยแพร่ประกาศ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศหลักเกณฑ์การเป็นนางสนองพระโอษฐ์ถือเป็นข้าราชบริพารในพระองค์  โดยการแต่งตั้งและการพ้นตำแหน่งให้เป็นตามพระราชอัธยาศัย โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 3 ปี

เว้นแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ต่อเวลาการดำรงตำแหน่งต่ออีกคราวละ 3 ปี โดยการดำรงตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์ จะสิ้นสุดลงเมื่อพ้นจากตำแหน่งข้าราชการในพระองค์, ลาออก, ถึงแก่กรรม หรือเมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้พ้นจากตำแหน่ง ทั้งนี้ ผู้ดำรงตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์ก่อนหน้าวันดังกล่าว ให้ดำรงตำแหน่งต่อไปตามวาระในประกาศ

บทบาทนางสนองพระโอษฐ์ ตำแหน่งสำคัญในราชสำนักไทย

นางสนองพระโอษฐ์ เป็นตำแหน่งสำคัญในราชสำนักไทย มักได้รับการคัดเลือกจากผู้ที่มีความสามารถ มีการศึกษา และมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มีหน้าที่หลักคือรับสนองพระราชดำรัสและปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ตามพระราชประสงค์ บทบาทนี้สะท้อนถึงโครงสร้างระบบราชสำนักที่เน้นความจงรักภักดีและความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างราชวงศ์และเจ้าหน้าที่ในราชสำนัก ทั้งนี้ แนวคิดและบทบาทของตำแหน่งนี้มีความแตกต่างจากตำแหน่งที่คล้ายคลึงกันในประเทศอื่น

ในบริบทของประเทศไทย นางสนองพระโอษฐ์ทำหน้าที่สำคัญในการช่วยเหลือพระราชินี หรือสมาชิกพระราชวงศ์ในด้านการประสานงาน การดำเนินพระราชกรณียกิจ และการดูแลกิจการภายในพระราชวัง เช่น

  • การประสานงานด้านพิธีการ: ช่วยดูแลรายละเอียดงานพิธีในราชสำนัก
  • การดูแลพระราชกิจส่วนพระองค์: สนับสนุนพระราชกรณียกิจ เช่น การติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ
  • การรักษาวัฒนธรรมราชสำนัก: เป็นผู้นำในการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีในราชสำนัก

นางสนองพระโอษฐ์ ความหมายจากพจานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ระบุว่า คุณพนักงานหญิงที่แต่งงานแล้ว มีหน้าที่รับพระราชเสาวนีย์ ไปปฏิบัติหรือเชิญพระราชเสาวนีย์ไปติดต่อข้อราชการตามพระราชประสงค์ของพระราชินี ส่วนนางพระกำนัล คือสตรีที่ยังไม่ได้แต่งงาน มีหน้าที่เช่นเดียวกับนางสนองพระโอษฐ์ ทั้งนางสนองพระโอษฐ์และนางพระกำนัลได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ขณะที่ข้าราชบริพาธสตรีอื่นที่มิได้ดำรงตำแหน่งพิเศษทั้งสองอย่างนี้อาจเรียกว่า “ข้าหลวง” ทั้งนี้ สตรีเหล่านี้ไม่อยู่ในฐานะเจ้าจอม หรือบาทบริจาริกา

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมากจะเป็นราชสกุล เป็นบุคคลที่มีทรัพย์สินและความรู้อยู่พอสมควร ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  จะทรงนำบุคคลเหล่านี้มาทรงอบรมและให้มารู้จักความยากลำบาก ทรงนำนางสนองพระโอษฐ์ตามการเสด็จพระราชดำเนินไปยังพื้นที่ห่างไกลความเจริญ เพื่อให้ได้พบเห็นชีวิตประจำวันที่แท้จริงของประชาชนทั่วไป

ความแตกต่างของตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์ในประเทศอื่น

ในหลายประเทศที่มีระบอบกษัตริย์ เช่น สหราชอาณาจักร หรือญี่ปุ่น ตำแหน่งที่มีบทบาทคล้ายคลึงกับนางสนองพระโอษฐ์ อาจใช้ชื่ออื่น เช่น Ladies-in-Waiting หรือ Court Ladies ซึ่งมีหน้าที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ:

  • สหราชอาณาจักร: Ladies-in-Waiting มีหน้าที่ช่วยเหลือราชินีในงานพิธีการระดับนานาชาติ รวมถึงการสนับสนุนงานสังคม แต่ไม่มีบทบาทเกี่ยวกับการบริหารภายในราชสำนักเท่าที่พบในประเทศไทย

  • ญี่ปุ่น: ตำแหน่งในราชสำนักมักเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานราชวงศ์ (Imperial Household Agency) มีหน้าที่เป็นผู้ช่วยงานพิธีการเช่นเดียวกัน แต่ระบบการทำงานมีโครงสร้างราชการที่ชัดเจนกว่า

ตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์ในประเทศไทย เป็นตัวแทนของการผสมผสานระหว่างประเพณีวัฒนธรรมและระบบบริหารราชสำนัก ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่นที่อาจเน้นบทบาทด้านพิธีการ หรือมุ่งเน้นการบริหารในลักษณะที่ต่างออกไป สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของบริบทวัฒนธรรมในแต่ละประเทศ ต่อการกำหนดบทบาทของเจ้าหน้าที่ในราชสำนัก.