เที่ยววัด ทำบุญเสริมสิริมงคลก่อนเข้าสู่ปีใหม่ “ดังรวยเฮง” ยังคงตะลุยพื้นที่อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ตามคำแนะนำของเพื่อนฝูงที่เกิดและเติบโตในเมืองนี้ เคยเป็นเมืองโบราณที่รุ่งเรืองกว่า 1,000 ปี เรียกกันว่าเมืองพระรถ มีคำขวัญประจำอำเภอ “พระพนัสบดีคู่บ้าน จักสานคู่เมือง ลือเลื่องบุญกลางบ้าน ตำนานพระรถ-เมรี ศักดิ์ศรีเมืองสะอาด เก่งกาจการทายโจ๊ก”
ที่นี่ไม่เพียงแต่เครื่องจักสาน ยังมีวัดวาอาราม ที่เกี่ยวข้องกับเมืองโบราณ และวัดเก่าแก่สวยงามหลายแห่ง ต้องไม่พลาดในการเที่ยวชม และกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะพระพนัสบดี พระพุทธรูปศิลา ศิลปะสมัยทวารวดี พระคู่บ้านคู่เมืองพนัสนิคม และเป็นอีกหนึ่งหลักฐานทางโบราณวัตถุของเมืองพระรถ
มาวัดโบสถ์ เที่ยววัดหลวง เส้นทาง 315 พนัสนิคม-ฉะเชิงเทรา
หลังจากเที่ยวชมวัดโบสถ์ ริมถนนสายพนัสนิคม-ฉะเชิงเทรา เส้นทางหมายเลข 315 ก็มุ่งหน้าตรงไปแล้วกลับรถไปฝั่งตรงกันข้ามทางทิศตะวันออก จากการปักหมุดจีพีเอสไปยังวัดหลวงพรหมมาวาส ชิดซ้ายเลี้ยวเข้าไปในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลวัดหลวง ประมาณ 700 เมตร โดยวัดอยู่ทางขวามือ เพื่อไปชมค้างคาวแม่ไก่ ฝูงใหญ่นับหมื่นตัวที่อาศัยเกาะอยู่ตามต้นไม้ภายในวัด
วัดหลวงพรหมมาวาส หรือวัดหลวง ตามการเรียกของชาวบ้าน เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อีกหนึ่งวัดโบราณ สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ปี พ.ศ 2257 เคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา และเป็นเส้นทางเดินทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ซึ่งปัจจุบันภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนวัดหลวงพรหมาวาส (พหลราษฎร์อุทิศ) อาคารเรือนไม้เก่าแก่สวยงามสะดุดตา คู่ขนานกับสนามฟุตบอลขนาดใหญ่
ก่อนไปชมค้างคาว ต้องเข้าไปกราบไหว้พระพุทธรูปภายในวิหาร และรูปหล่อของพระเกจิ อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพรหมมาวาส ทั้ง 3 องค์ พระครูสังวรสีลาจารย์ (หลวงพ่อเจียม) ,พระครูอินทโมลีศรีสังวร (หลวงพ่อคำ) และพระธรรมรัตนสุนทร (หลวงพ่อจิตร) ถือว่าบรรยากาศเงียบสงบมากๆ ทั้งๆที่เป็นวันหยุดวันเสาร์ ไม่มีนักท่องเที่ยวแม้แต่คนเดียว เหมือนกับหลายวัดก่อนหน้าที่เข้าไปเที่ยวชม
ค้างคาวแม่ไก่ อยู่คู่วัดหลวง บินว่อน เกาะกิ่งไม้ ส่งเสียงร้องไปทั่ว
เมื่อเดินออกมาจากวิหาร มองไปบนท้องฟ้า ก็เห็นฝูงค้างคาวสีดำทะมึน บินโฉบไปมา พร้อมกับส่งเสียงร้องแหลมๆ ไปทั่ว และนอนห้อยหัวเกาะตามต้นไม้ จนดูดำมืด ถ้าเป็นเวลากลางคืนน่าจะหลอนๆ ดูน่ากลัวนะ สำหรับผู้ที่ไปครั้งแรก ยังไม่ชิน ก่อนเดินย่องไปเก็บภาพและถ่ายคลิป แบบกล้าๆกลัวๆ ใจก็คิดจะมีเชื้อโรคไหมหนอ แล้วก็แจ็คพอต โดนค้างคาวฉี่ใส่หัว แต่โชคดีที่ใส่หมวก
คนในพื้นที่เล่าว่าในอดีตค้างคาวแม่ไก่เหล่านี้ ถูกไล่ต้อนมาจากวัดโบสถ์ เมื่อมาอยู่วัดหลวง ก็ไล่กลับไป สุดท้ายก็กลับมาอีก มาอยู่อาศัยจนปัจจุบัน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวภายในวัดที่ใครๆ แวะมาดู และช่วงประมาณ 6 โมงเย็น ค้างคาวจะบินออกไปหากินในตอนกลางคืน ซึ่งเท่าที่หาข้อมูลพบว่าค้างคาวภายในวัด ไม่เคยมีประวัติการแพร่ระบาดของโรคร้ายใดๆ มีนักวิจัยเข้ามาตรวจหาเชื้อโรคปีละ 4 ครั้งในทุกๆปี
อิ่มบุญไหว้พระ ดูค้างค้างวัดหลวง แวะชิมก๋วยเตี๋ยวยายเซี้ยม
ระหว่างทางก่อนกลับ ก็แวะลองชิมก๋วยเตี๋ยวยายเซี้ยม ร้านเก่าแก่ในพนัสนิคม อยู่ใกล้กับวัดหลวง ขายมาตั้งแต่ปี 2500 ว่าอร่อยสมคำร่ำลือหรือไม่ ทั้งก๋วยเตี๋ยวน้ำเส้นเล็กต้มยำ บะหมี่แห้งต้มยำ และราดหน้าเส้นใหญ่ใส่ไข่ดาวน้ำ ซึ่งเท่าที่ลิ้นสัมผัสราดหน้ามีรสชาติเปรี้ยวนิดๆ ของซอสพริกศรีราชา
ทุกเมนูใส่หมูสับเด้งๆ แบนๆ รสนุ่ม และหมูต้มหั่นบางๆ เป็นเอกลักษณ์ของร้าน ส่วนก๋วยเตี๋ยวน้ำต้มยำ มีเพียงถั่วลิสงคั่วป่น และใส่น้ำตาล ออกหวานนิดๆ ไม่ใส่น้ำมะนาว เข้ากันดีกับน้ำซุปกระดูกหมูที่หอมหวานกลมกล่อม ใครชอบรสเผ็ด เปรี้ยว เค็ม ให้ปรุงกันเองตามใจชอบ และพริกน้ำส้ม เป็นพริกขี้หนูหั่นซอย เคี้ยวขบความเผ็ดได้รสชาติ สนนราคาทั้งหมด รวมขนมกงทอด 1 ถุง 10 บาท รวมแล้ว 155 บาท
เมื่ออิ่มท้องก็ไปกันต่อ สถานีถัดไปวัดใต้ต้นลาน หมู่ที่ 9 ตำบลไร่หลักทอง อ.พนัสนิคม อยู่ละแวกใกล้กันบนถนนเส้นทางเดิมพนัสนิคม-ฉะเชิงเทรา หมายเลข 315 ใครจะมาเที่ยวพนัสนิคม วางแผนการเดินทางกันดีๆ และขอบอกเลยว่า เส้นทางนี้เต็มไปด้วยวัดหลายแห่ง ตั้งอยู่ติดๆกัน ในการเดินสายทำบุญ โปรดติดตามตอนต่อไป เนื้อหาจัดเต็มกับการลงพื้นที่อ.พนัสนิคม 2 วัน 1 คืน ใกล้กรุงเทพฯ นิดเดียว ก็เที่ยวได้เมืองทางผ่าน ไม่ควรพลาด.