รถบัสมรณะ ย่างสยอง 23 ศพ ใช้มานาน 54 ปี แห่อาลัยครู ทำหน้าที่วินาทีสุดท้าย

รถบัสมรณะ ใช้งานมานานจดทะเบียน ตั้งแต่ปี 2513 กว่า 54 ปี แจ้งขนส่งฯ ไม่ได้ติดถังแก๊สเอ็นจีวี เหยื่อย่างสยอง 23 ศพ พิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว 15 คน อาลัย 2 ครู 1 ครูฝึกสอน เชิญชวนไว้ทุกข์ผู้จากไป เป็นเวลา 3 วัน

เหตุสลดเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2567 รถบัสนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี เกิดไฟลุกไหม้วอดทั้งคัน ระหว่างมาทัศนศึกษา บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า ก่อนถึงอนุสรณ์สถาน มีผู้เสียชีวิต 23 ศพ ในจำนวนนี้มีครูเสียชีวิต 2 ศพ และครูฝึกสอน 1 ศพ ส่วนอีก 3 ราย ไฟครอกอาการสาหัส ล่าสุดสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พิสูจน์อัตลักษณ์ได้แล้ว 15 คน

มีรายงานว่า รถบัสดังกล่าวเป็นของบริษัทชินบุตรทัวร์ เลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี จดทะเบียนครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2513 ประเภทรถโดยสารไม่ประจำทาง เลขตัวรถ 14300 เลขเครื่องยนต์ 422915-20-590053 จำนวนที่นั่ง 41 ที่นั่ง น้ำหนักรวม 16,600 กิโลกรัม  โดยการยื่นจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ไม่ได้ระบุมีการติดตั้งถังแก๊สเอ็นจีวี แต่ระบุกับบริษัทประกันภัย ว่าติดถังแก๊สเอ็นจีวี

ยิ่งหดหู่หนักจากการเปิดเผยของกู้ภัย ได้พบร่างที่คาดว่าเป็นครูกำลังกอดเด็กเอาไว้ในอ้อมแขน ทำหน้าที่ครูจนวินาทีสุดท้าย และครูเหยื่อรถบัสมรณะ มีชื่อของครูกนกวรรณ ศรีพงษ์ และครูพิมพ์ทอง สมบัติ โดยครูกนกวรรณ เพิ่งสำเร็จการศึกษาและเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และทางคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้โพสต์แสดงความเสียใจต่อการจากไปของศิษย์เก่า

ส่วนครูพิมพ์ทอง สร้างผลงานคว้าเหรียญเงินในการคัดเลือกผลงานวิธีปฏิบัติที่ดีในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์- หน้าที่พลเมืองฯของสถานศึกษาและครูผู้สอนระดับเขตพื้นที่การศึกษาประจำปีงบประมาณ 2567 ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ขณะที่ครูสริญญา หอมเกษร ซึ่งเป็นครูฝึกสอน จากคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์อุทัยธานี

จากเหตุสลดที่เกิดขึ้น ทางกระทรวงศึกษาธิการ ได้เชิญชวน ข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด และในกำกับ ของกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกันแสดงความเสียใจ และไว้อาลัยกับการจากไปของนักเรียน และครูผู้เสียชีวิต โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ด้วยการไว้ทุกข์ให้กับผู้เสียชีวิต เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 ถึงวันที่ 4 ต.ค.นี้.