เจาะลึกปรากฏการณ์ไข้หวัดใหญ่ในญี่ปุ่น ทำไมต้องระบาดในฤดูหนาว

จาก AI ถึง RT-PCR: เทคโนโลยีล้ำของญี่ปุ่นกับการรับมือไข้หวัดใหญ่ การระบาดของไข้หวัดใหญ่ในญี่ปุ่นเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายฤดูหนาวถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งมักจะเป็นช่วงเดือนธันวาคม ถึงมีนาคม

สาเหตุไข้หวัดใหญ่ระบาดในญี่ปุ่น ช่วงฤดูหนาว

สภาพอากาศเอื้ออำนวย: อากาศเย็นและแห้งในฤดูหนาวช่วยให้ไวรัสไข้หวัดใหญ่แพร่กระจายได้ดีขึ้น อุณหภูมิที่ต่ำลงทำให้ไวรัสอยู่รอดได้นานขึ้นในอากาศและบนพื้นผิวต่างๆ นอกจากนี้ ความชื้นต่ำในอากาศช่วยให้ละอองฝอยที่มีไวรัสลอยอยู่ในอากาศได้นานขึ้น ส่งผลให้การแพร่กระจายของเชื้อเป็นไปได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

พฤติกรรมของผู้คน: ในช่วงฤดูหนาว ผู้คนมักอยู่รวมกันในพื้นที่ปิดมากขึ้น ทำให้เชื้อแพร่กระจายได้ง่าย การอยู่ในที่แออัดเพิ่มโอกาสการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่สาธารณะ เช่น ระบบขนส่งมวลชน ห้างสรรพสินค้า หรือสถานศึกษา นอกจากนี้ การเดินทางในช่วงวันหยุดฤดูหนาวอาจเพิ่มการแพร่กระจายของไวรัสระหว่างพื้นที่ ทำให้การระบาดขยายวงกว้างมากขึ้น

ระบบภูมิคุ้มกัน: ความเย็นอาจส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น การสูดอากาศเย็นเข้าไปทำให้อุณหภูมิในโพรงจมูกลดลง ซึ่งลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในจมูกลงถึงครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ยากขึ้น อีกทั้งการขาดแสงแดดในฤดูหนาวอาจทำให้ร่างกายผลิตวิตามินดีได้น้อยลง ซึ่งส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยรวม

การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ: การลดลงของอุณหภูมิอย่างรวดเร็วอาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างกะทันหันอาจส่งผลต่อการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน และเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่

ผลกระทบต่อเยื่อบุทางเดินหายใจ: อากาศเย็นและแห้งทำให้เยื่อบุจมูกและลำคอแห้ง ลดประสิทธิภาพในการกรองเชื้อโรค การสูดอากาศเย็นอาจลดประสิทธิภาพของระบบ mucociliary clearance ซึ่งช่วยกำจัดไวรัสออกจากทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้ไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อ

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ฤดูหนาวจึงเป็นช่วงที่เอื้อต่อการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ในญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ ในเขตอบอุ่น การเข้าใจกลไกเหล่านี้ช่วยให้สามารถวางแผนป้องกันและควบคุมการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในระดับบุคคลและระดับสาธารณสุข

ญี่ปุ่นใช้เทคโนโลยีและระบบหลายอย่างในการสังเกตการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่

ระบบเฝ้าระวังแห่งชาติ

1. การเฝ้าระวังผู้ป่วยนอก: ระบบ NESID (National Epidemiological Surveillance for Infectious Diseases) รวบรวมข้อมูลจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่รายสัปดาห์จากสถานพยาบาล 5,000 แห่งทั่วประเทศ

2. การเฝ้าระวังทางไวรัสวิทยา: ห้องปฏิบัติการสาธารณสุข 81 แห่งทำการตรวจหาและวิเคราะห์เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่

3. การเฝ้าระวังการขาดเรียนและการปิดโรงเรียน: โรงเรียนรายงานจำนวนนักเรียนที่ขาดเรียนและการปิดชั้นเรียนหรือโรงเรียนเนื่องจากไข้หวัดใหญ่

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)

บริษัท Hitachi พัฒนาบริการพยากรณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่โดยใช้เทคโนโลยี AI สามารถคาดการณ์การระบาดล่วงหน้าได้ถึง 4 สัปดาห์

การเฝ้าระวังแบบเรียลไทม์

1. ระบบเฝ้าระวังการสั่งยา: ใช้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการสั่งยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่จากร้านขายยา 5,275 แห่ง เพื่อประมาณจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่แบบเรียลไทม์

2. ML-Influenza Database: เว็บไซต์เฝ้าระวังผู้ป่วยนอกแบบเรียลไทม์ที่ดำเนินการโดยแพทย์อาสาสมัครกว่า 200 คนทั่วประเทศ

การตรวจจับเชื้อ

ญี่ปุ่นพัฒนาวิธี duplex real-time RT-PCR เพื่อตรวจหาไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้หลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งระบบเฝ้าระวังที่หลากหลายและทันสมัยเหล่านี้ช่วยให้ญี่ปุ่นสามารถติดตามสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถตอบสนองต่อการระบาดได้อย่างรวดเร็ว.

ขอบคุณข้อมูล-ภาพ : ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล