ตามรอยศรัทธา หลวงพ่อเกษม เขมโก นักบุญล้านนา ถือสันโดษเป็นที่ตั้ง

เที่ยววัด กราบไหว้สักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กับดังรวยเฮง ครั้งนี้ตะลุยนครลำปาง ประเดิมสถานที่แรก “สุสานไตรลักษณ์” สถานปฏิบัติธรรม-มณฑป หลวงพ่อเกษม เขมโก ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง ออกจากตัวเมืองลำปางไปทางชานเมืองบนทางหลวงหมายเลข 1035 สายลำปาง-แจ้ห่ม ผ่านกำแพงเมืองโบราณ หรือที่เรียกกันว่า ”ประตูม้า”

รูปปั้นหลวงพ่อเกษม เขมโก

เมื่อไปถึงสุสานไตรลักษณ์ อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ จะเห็นรูปปั้นหลวงพ่อเกษม เขมโก ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน อยู่หน้ามณฑป อาคารทรงไทยประยุกต์ ซึ่งมีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อเกษม เขมโก นั่งขัดสมาธิขนาดเท่ารูปจริง ประดิษฐานในห้องกระจก เพื่อให้ประชาชนผู้ศรัทธา กราบไหว้สักการะ ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. โดยมีป้ายเขียนระบุให้พนมมือไหว้ที่หน้าอกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และห้ามยืน

หลวงพ่อเกษม เขมโก หนึ่งในพระเกจิสายวิปัสสนากรรมฐาน และด้านธุดงค์วัตร ถือสันโดษเป็นที่ตั้ง ด้วยวิถีชีวิตอันเรียบง่าย ใช้อำนาจจิต ควบคุมร่างกายเข้าสู่สมาธิภาวนา มุ่งมั่นในธรรมะ และเปี่ยมด้วยบารมี ยังคงอยู่ในใจผู้คนอย่างไม่เสื่อมถอย แม้ละสังขารไปแล้วกว่า 29 ปี เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2539 สิริอายุ 84 ปี ตรงกับวันแรม 11 ค่ำ เดือน 2 ปีกุน

นอกจากนี้พระเครื่องหลวงพ่อเกษม เขมโก ยังเป็นที่ต้องการมีไว้ในครอบครอง เชื่อกันว่าเป็นวัตถุมงคลที่มีพุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดคงกระพัน ทำมาค้าขายร่ำรวย ให้โชคให้ลาภ และไม่ติดขัดในหน้าที่การงาน ยิ่งเวลาผ่านไปพระเครื่องวัตถุมงคลของหลวงพ่อเกษม เขมโก ยิ่งมีมูลค่าระดับสูงในหมู่นักเล่นพระ โดยเฉพาะเหรียญรูปไข่ รุ่นกองพันลำปาง สร้างที่สุสานไตรลักษณ์ ในปี 2517 คาดว่าน่าจะแตะหลักสิบล้านบาท รวมถึงรุ่นนิยมพระปิดตาสารพัดดี พระปิดตามหาโชค หลวงพ่อเกษม ปี 2518

ประวัติหลวงพ่อเกษม เขมโก คำสอน แนวปฏิบัติ

หลวงพ่อเกษม เขมโก หรือ ครูบาเจ้าเกษม เขมโก มีนามเดิมว่า เจ้าเกษม ณ ลำปาง เกิดเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2455 เป็นบุตรของเจ้าน้อยหนู ณ ลำปาง กับเจ้าแม่บัวจ้อน ณ ลำปาง และเป็นพระราชปนัดดา ในมหาอำมาตย์โท พลตรีเจ้าบุญวาทย์ วงศ์มานิต เจ้าหลวงผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้าย

ในวัยเด็ก ศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนบุญทวงศ์อนุกูล อ.เมือง จ.ลำปาง จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ชั้นสูงของโรงเรียน ในปี 2466 ขณะอายุ 11 ปี  และเมื่ออายุ 13 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร หน้าศพเจ้าอาวาสวัดป่าดั๊ว เพียง 7 วันก็ลาสิกขา

ต่อมาอีก 2 ปี ขณะอายุ 15 ปี บรรพชาเป็นสามเณรอยู่วัดบุญยืน จ.ลำปาง ได้ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างจริงจังทางด้านปริยัติศึกษาธรรมะ จนสามารถสอบนักธรรมชั้นโทได้ในปี 2474 และได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในปี 2475 ได้รับฉายา “เขมโก” แปลว่า ผู้มีธรรมอันเกษม

หลังจากบวชได้ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด และเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบสมถะโดยการถือธุดงควัตร ไม่สะสมสิ่งของใด ๆ และใช้ชีวิตในป่าช้า หรือสถานที่เงียบสงบ แม้ได้รับเลือกเป็นเจ้าอาวาสวัดบุญยืน แต่ก็ไม่ยินดียินร้าย พยายามลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสหลายครั้ง เนื่องจากอยากออกธุดงค์ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ จึงออกจากวัดบุญยืน ไปที่ศาลาวังทาน เขียนข้อความขอลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาส

เมื่อโยมแม่ สิ้นบุญ ได้เจริญวิปัสสนาถือสันโดษเป็นที่ตั้ง ไม่ยึดติดในกิเลสทั้งปวง ณ สุสานไตรลักษณ์ จนกระทั่งสังขารไม่แข็งแรง ได้ละสังขาร ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลศูนย์ภาคเหนือ จังหวัดลำปาง เมื่อเวลา 19.40 น. วันที่ 15 ม.ค. 2539 สิริอายุ 84 ปี

แม้หลวงพ่อเกษม ละสังขารไปแล้วกว่า 29 ปี แต่คำสอนและแนวปฏิบัติ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับพุทธศาสนิกชน ในการดำเนินชีวิตเรียบง่ายและเน้นการเจริญสติในปัจจุบัน ตามรอยคำสอน “ความสุขแท้จริงอยู่ที่ใจ หากใจไม่ยึดติด สุขจะบังเกิดทันที.

เที่ยววัด กราบไหว้สักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กับดังรวยเฮง ครั้งนี้ตะลุยนครลำปาง ประเดิมสถานที่แรก “สุสานไตรลักษณ์” สถานปฏิบัติธรรม-มณฑป หลวงพ่อเกษม เขมโก ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง ออกจากตัวเมืองลำปางไปทางชานเมืองบนทางหลวงหมายเลข 1035 สายลำปาง-แจ้ห่ม ผ่านกำแพงเมืองโบราณ หรือที่เรียกกันว่า”ประตูม้า”

เมื่อไปถึงสุสานไตรลักษณ์ อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ จะเห็นรูปปั้นหลวงพ่อเกษม ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน อยู่หน้ามณฑป อาคารทรงไทยประยุกต์ ซึ่งมีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อเกษม เขมโก นั่งขัดสมาธิขนาดเท่ารูปจริง ประดิษฐานในห้องกระจก เพื่อให้ประชาชนผู้ศรัทธา กราบไหว้สักการะ ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. โดยมีป้ายเขียนระบุให้พนมมือไหว้ที่หน้าอกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และห้ามยืน

หลวงพ่อเกษม เขมโก หนึ่งในพระเกจิสายวิปัสสนากรรมฐาน และด้านธุดงค์วัตร ถือสันโดษเป็นที่ตั้งด้วยวิถีชีวิตอันเรียบง่าย ใช้อำนาจจิต ควบคุมร่างกายเข้าสู่สมาธิภาวนา มุ่งมั่นในธรรมะ และเปี่ยมด้วยบารมี ยังคงอยู่ในใจผู้คนอย่างไม่เสื่อมถอย แม้ละสังขารไปแล้วกว่า 29 ปี เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2539 สิริอายุ 84 ปี ตรงกับวันแรม 11 ค่ำ เดือน 2 ปีกุน

นอกจากนี้พระเครื่องหลวงพ่อเกษม เขมโก ยังเป็นที่ต้องการมีไว้ในครอบครอง เชื่อกันว่าเป็นวัตถุมงคลที่มีพุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดคงกระพัน ทำมาค้าขายร่ำรวย ให้โชคให้ลาภ และไม่ติดขัดในหน้าที่การงาน ยิ่งเวลาผ่านไปพระเครื่องวัตถุมงคลของหลวงพ่อเกษม เขมโก ยิ่งมีมูลค่าระดับสูงในหมู่นักเล่นพระ โดยเฉพาะเหรียญรูปไข่ รุ่นกองพันลำปาง สร้างที่สุสานไตรลักษณ์ ในปี 2517 คาดว่าน่าจะแตะหลักสิบล้านบาท รวมถึงรุ่นนิยมพระปิดตาสารพัดดี พระปิดตามหาโชค หลวงพ่อเกษม ปี 2518

ถนนทางเข้าสุสานไตรลักษณ์

หลวงพ่อเกษม เขมโก หรือ ครูบาเจ้าเกษม เขมโก มีนามเดิมว่า เจ้าเกษม ณ ลำปาง เกิดเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2455 เป็นบุตรของเจ้าน้อยหนู ณ ลำปาง กับเจ้าแม่บัวจ้อน ณ ลำปาง และเป็นพระราชปนัดดา ในมหาอำมาตย์โท พลตรีเจ้าบุญวาทย์ วงศ์มานิต เจ้าหลวงผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้าย

ในวัยเด็ก ศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนบุญทวงศ์อนุกูล อ.เมือง จ.ลำปาง จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ชั้นสูงของโรงเรียน ในปี 2466 ขณะอายุ 11 ปี  และเมื่ออายุ 13 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร หน้าศพเจ้าอาวาสวัดป่าดั๊ว เพียง 7 วันก็ลาสิกขา

ต่อมาอีก 2 ปี ขณะอายุ 15 ปี บรรพชาเป็นสามเณรอยู่วัดบุญยืน จ.ลำปาง ได้ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างจริงจังทางด้านปริยัติศึกษาธรรมะ จนสามารถสอบนักธรรมชั้นโทได้ในปี 2474 และได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในปี 2475 ได้รับฉายา “เขมโก” แปลว่า ผู้มีธรรมอันเกษม

หลังจากบวชได้ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด และเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบสมถะโดยการถือธุดงควัตร ไม่สะสมสิ่งของใด ๆ และใช้ชีวิตในป่าช้า หรือสถานที่เงียบสงบ แม้ได้รับเลือกเป็นเจ้าอาวาสวัดบุญยืน แต่ก็ไม่ยินดียินร้าย พยายามลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสหลายครั้ง เนื่องจากอยากออกธุดงค์ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ จึงออกจากวัดบุญยืน ไปที่ศาลาวังทาน เขียนข้อความขอลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาส

เมื่อโยมแม่ สิ้นบุญ ได้เจริญวิปัสสนาถือสันโดษเป็นที่ตั้ง ไม่ยึดติดในกิเลสทั้งปวง ณ สุสานไตรลักษณ์ จนกระทั่งสังขารไม่แข็งแรง ได้ละสังขาร ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลศูนย์ภาคเหนือ จังหวัดลำปาง เมื่อเวลา 19.40 น. วันที่ 15 ม.ค. 2539 สิริอายุ 84 ปี

แม้หลวงพ่อเกษม ละสังขารไปแล้วกว่า 29 ปี แต่คำสอนและแนวปฏิบัติ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับพุทธศาสนิกชน ในการดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่ายและเน้นการเจริญสติในปัจจุบัน ตามรอยคำสอน “ความสุขแท้จริงอยู่ที่ใจ หากใจไม่ยึดติด สุขจะบังเกิดทันที.