ดาวหางจื่อจินซาน-แอตลัส ดาวหางโดดเด่นแห่งปี 2567 เป็นดาวหางสว่างที่สุดอีกหนึ่งดวง ได้เข้าใกล้โลกที่สุด เมื่อช่วงหัวค่ำ 13 ต.ค. พาดสว่างเหนือฟ้าจ.เชียงใหม่ ทางทิศตะวันตกบริเวณทางขวาของดาวศุกร์ สร้างความฮือฮาให้กับวงการดาราศาสตร์ ภายหลังชาวโลกได้เห็นดาวหางเลิฟจอย มีความสว่างเกือบเท่าดาวศุกร์ ในปี 2554 และหลังจากนั้นไม่มีดาวหางสว่างในระดับนั้น ปรากฏให้เห็นอีกเลย
ในอดีตคนเกือบทั่วโลกมองดาวหาง เป็นลางร้าย ก่อให้เกิดเหตุเภทภัย เชื่อกันว่าเมื่อดาวหางปรากฏขึ้น จะตามมาด้วยเรื่องร้ายเสมอ เช่น เกิดสงคราม โรคระบาด ประมุขเสียชีวิต เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ความรู้ความเข้าใจของผู้คนเกี่ยวกับธรรมชาติของดาวหางมีมากขึ้น เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มนุษย์สามารถรู้ล่วงหน้าได้ จนความกลัวค่อยๆ ลดน้อยลงไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล อาจหวาดกลัวจากสิ่งที่เคยได้ยินได้ฟังอย่างไม่มีเหตุผลก็ได้
ขณะที่ตำราโหราศาสตร์ไทย ให้ความสำคัญกับดาวเคราะห์น้อย และดาวหาง ในการพยากรณ์เหตุการณ์บ้านเมือง เพราะเป็นดาวบริวารของพระเกตุ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยคนจีนเรียกดาวหาง ว่า เซาซิ้วแช เป็นดาวไม้กวาด เชื่อว่าเป็นลางร้าย ส่วนฝรั่ง เรียกว่า ดาวมวยผม จะเกี่ยวข้องกับคนสำคัญๆ ระดับผู้นำประเทศอย่างในอดีตทั้งเภทภัย หายนะ การเกิดโรคระบาด ก็มีส่วนมาจากดางหาง
ก่อนหน้านั้นอ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ยกตัวอย่าง เมื่อคราวดาวหางฮัลเลย์ โคจรเข้ามาใกล้โลก ได้นำโรคเอดส์มาด้วย และดาวหางนีโอไวส์ เข้ามาในช่วงโควิดระบาด เมื่อดาวหางเข้ามาใกล้โลก มักเกิดภัยอาเพศ เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง บ้านเมืองแตกแยก เกิดปัญหาเศรษฐกิจ สูญเสียบุคคลสำคัญๆ เกิดอุบัติภัยรุนแรง เกิดโรคระบาด เกิดภัยธรรมชาติ เกิดสงคราม เกิดการก่อการร้าย
อีกทั้งดาวเคราะห์น้อย และดาวหาง เป็นดาวบริวารของพระเกตุ หนึ่งในดาวนพเคราะห์ จะเกี่ยวข้องกับวิญญาณ เรื่องเร้นลับเกิดขึ้นแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ซึ่งคนในอดีตกลัวดาวหางที่โคจรเข้าใกล้โลก รวมถึงสุริยุปราคา ใช้ดาวพระเคราะห์โคจรไปยังกลุ่มดาวในจักรวาล.
เครดิตภาพ : สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ