- คดีฆาตกรรมอำมหิต ทุบหัวฟันคอฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ทิ้งศพริมถนนทางเข้าสวนปาล์ม พื้นที่ตำบลป่ายุบ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง ในคืนวันลอยกระทง หลังหายตัวไปขณะกลับจากไปทอดกฐิน และลูกสาว ได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.สัตหีบ
- ในเวลาต่อมามีผู้พบศพหญิงรูปร่างท้วม ผมสั้น อายุประมาณ 65 ปี สูงราว 155 ซม. สวมเสื้อสีฟ้าลายดอก นุ่งกางเกงขายาวสีครีม นอนคว่ำหน้าอยู่ในพงหญ้ามีน้ำเจิ่งนอง ริมถนนลูกรังภายในสวนปาล์ม ถูกทุบด้วยของแข็งที่หน้าผากแตกเป็นแผลฉกรรจ์ บริเวณท้ายทอยมีบาดแผลคล้ายถูกฟันด้วยของมีคมเป็นแผลลึก และนิ้วนางทั้ง 2 ข้างถูกตัดทิ้ง ไม่พบเอกสารหลักฐานว่าเป็นใคร
- เมื่อลูกสาว ซึ่งมีสามีเป็นอัยการ รับแจ้งจากตำรวจ จึงเดินทางมาให้ปากคำที่ สภ.วังจันทร์ ด้วยน้ำตานองหน้าว่า แม่อยู่บ้านกับสามีชาวเยอรมันอายุ 80 ปี วันเกิดเหตุไปงานบุญกฐินที่สำนักปฏิบัติธรรมเขาพลอย ตำบลสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยสามีชาวเยอรมันขี่รถจักรยานยนต์ไปส่ง ส่วนขากลับนั่งรถจักรยานพ่วงข้างเพื่อนบ้านกลับมาลงหน้าบ้านของเพื่อนบ้าน ในซอยเดียวกันเพื่อเดินกลับบ้าน ก่อนจะหายตัวไป
- จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าชาวบ้านเห็นรถเก๋งต้องสงสัยสีขาว วิ่งเข้าไปในจุดพบศพ คาดเป็นรถผู้ก่อเหตุ จึงเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พบรถเก๋งสีขาว ทะเบียน จร 2814 ชลบุรี ของนางกมลวรรณ โวลฟ์ เป็นรถต้องสงสัยคันเดียวที่ขับมารับผู้ตาย คือนางวรรณา แม่ยายอัยการ ในช่วงเวลา 12.58 น. วันที่ 15 พ.ย. ก่อนมีผู้พบศพ ถูกฆาตกรรมชิงทรัพย์
- เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังตรวจสอบข้อมูลพบว่าปลายสายเบอร์มือถือที่โทรหาผู้ตายคนสุดท้าย คือนางกมลวรรณ และเป็นผู้ขับรถเก๋งสีขาวคันเดียวกับที่มีชาวบ้านเห็นบริเวณจุดทิ้งศพ นำไปสู่การจับกุมตัวนางกมลวรรณ ซึ่งยังปากแข็งไม่ยอมรับสารภาพ แต่ด้วยพยานหลักฐาน โดยเฉพาะเส้นผมอยู่ในมือผู้ตาย จึงให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง และก่อเหตุเพียงคนเดียว เพราะติดหนี้พนัน บาคาร่า โดยโทรหาผู้ตาย ในช่วงเวลาเที่ยงกว่า ไปเอาไข่ไก่ในพื้นที่ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง
- เมื่อถึงที่เกิดเหตุประมาณ 4 โมงเศษ ได้ลงจากรถเรียกผู้ตายให้ลงมาคุยกัน ท่ามกลางฝนตกหนัก แต่ผู้ตายไม่ยอมบอกว่าจะมืดแล้ว ต้องกลับบ้าน จึงใช้เหล็กแป็ปฟาดผู้ตายที่ด้านหลัง มีการต่อสู้กันประมาณ 10 นาที จนนางวรรณาเสียชีวิต และได้ปลดสร้อยทองคอ สร้อยมือ ต่างหู ส่วนแหวนดึงไม่ออก จึงใช้เหล็กทุบนิ้วจนขาดและถอดแหวนไป โยนนิ้วทั้งสองข้างทิ้งไป ก่อนขับรถออกไป เพื่อนำทรัพย์สินไปขาย ได้เงิน 88,000 บาท ไปใช้หนี้พนัน
- ข่าวความโหดเหี้ยมของนางกมลวรรณ ไปไกลถึงกลุ่มคนไทยในเยอรมัน และต่างระบุข้อมูลในโซเชียลว่า ตอนนางกมลวรรณ อยู่เยอรมัน ติดพนันอย่างหนัก เคยก่อเหตุฆ่าคนตายชิงทรัพย์ไป 2 ราย ติดคุกเยอรมัน 10 ปี และได้สามีชาวเยอรมันช่วยเรื่องคดี จนกลับมาอยู่เมืองไทย แต่ไม่ทิ้งพฤติกรรมเดิมๆ ก่อคดีฆ่าชิงทรัพย์อีก เพราะเป็นผีพนัน ติดหนี้อย่างหนัก สุดท้ายก็ลงมือฆ่าชิงทรัพย์ผู้อื่น กระทำกับแม่ยายอัยการอย่างโหดเหี้ยม.