พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 2567 หรือ “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศในวันที่ 23 มกราคม 2568 ภายหลังราชกิจจานุเบกษาออกประกาศ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 เปิดโอกาสให้การสมรสไม่จำกัดเฉพาะชายและหญิง แต่บุคคลทุกเพศสามารถสมรสระหว่างกันได้ โดยกระทรวงมหาดไทย ออกมายืนยันความพร้อมในการให้บริการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมของสำนักทะเบียนอำเภอ และสำนักงานเขต ทุกแห่ง
วันแรกในการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม 23 มกราคม 2568 จะเป็นวันประวัติศาสตร์ของคู่รักเพศเดียวกัน หรือ LGBTQ+ ในการเริ่มต้นชีวิตคู่อย่างมั่นคงในการจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่จำกัดเฉพาะชายและหญิง อีกต่อไป ถือเป็นครั้งแรกของไทย ภายหลังหลายฝ่ายรอมานาน ตั้งแต่ปี 2544 มีความพยายามผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม
สำหรับการเตรียมพร้อมในการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมของคู่รักเพศเดียวกัน ซึ่งจะมีผลในแง่กฎหมายในสถานะคู่สมรส ทั้งเรื่องสิทธิในทางทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างการสมรส จะถือเป็นสินสมรส สิทธิในการตัดสินใจทางการแพทย์ เมื่อคู่สมรสประสบปัญหาด้านสุขภาพ และสิทธิตามกฎหมายในการดูแลบุตร หากคู่สมรสรับบุตรบุญธรรมมาอุปการะเลี้ยงดูร่วมกัน
คุณสมบัติคู่รักเพศเดียวกัน จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม
บุคคลทั้งสองจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ กรณีเป็นผู้เยาว์ ต้องนำบิดามารดาหรือผู้ปกครองมาให้ความยินยอมด้วย หรือกรณีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องได้รับอนุญาตจากศาล
ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือไร้ความสามารถ ไม่เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดา หรือร่วมแต่บิดามารดา ไม่เป็นคู่สมรสของบุคคลอื่น และผู้รับบุตรบุญธรรมจะสมรสกับบุตรบุญธรรมไม่ได้
หญิงที่มีชายเป็นคู่สมรสได้ตายไป หรือการสมรสสิ้นสุดลงด้วยประการอื่น จะสมรสใหม่ได้ต่อเมื่อสิ้นสุดการสมรสไปแล้วไม่น้อยกว่า 310 วัน เว้นแต่คลอดบุตรแล้วในระหว่างนั้น มีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือศาลมีคำสั่งให้สมรสได้ รวมถึงสมรสกับคู่สมรสเดิม ส่วนบุคคลที่มีอายุไม่ครบ 18 ปีบริบูรณ์ ศาลอาจอนุญาตให้สมรสได้
เรื่องค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมในสำนักทะเบียน ไม่มีค่าใช้จ่าย ยกเว้นจดทะเบียนสมรสนอกสำนักทะเบียน ต้องจัดรถรับ-ส่งนายทะเบียน และมีค่าธรรมเนียม 200 บาท โดยเอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม สำหรับคนไทยต้องมีบัตรประชาชน สัญญาก่อนสมรส (ถ้ามี) พยานบุคคลอายุ 20 ปีขึ้นไป จำนวน 2 คน กรณีอายุยังไม่ครบ 20 ปี ต้องมีใบยินยอมจากผู้ปกครองส่ วนชาวต่างชาติ ต้องมีหนังสือเดินทาง หนังสือรับรองสถานะสมรส ต้องแปลเป็นภาษาไทยและรับรองจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
หากคู่สมรสต้องการหย่า เมื่อการใช้ชีวิตคู่ไม่ราบรื่น หรือมีเหตุอื่นเป็นอันทำให้การสมรสสิ้นสุดลง ใน 3 กรณี 1. คู่สมรสเสียชีวิต 2. จดทะเบียนหย่า จากการยินยอมทั้งสองฝ่าย และ 3. ศาลสั่งให้ถอนสมรส ซึ่งการจดทะเบียนหย่าสิ้นสุดการเป็นคู่สมรส ต้องมีพยานที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป จำนวน 2 คน.