กิจกรรมตามล่าหาเหรียญ Jagat นำไปแลกเป็นเงินสด จากการชักชวนในโลกโซเชียลของประชาชนบางกลุ่มในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ในขณะนี้ ได้มีประชาชนจำนวนมากร้องเรียนพฤติกรรมมายังตำรวจไซเบอร์ เพราะได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญในการดำรงชีวิตประจำวัน และมีการบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของผู้อื่นในการตามหาเหรียญ Jagat ในสถานที่ต่างๆ อาจเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายอาญา
“Jagat” แพลตฟอร์มจากประเทศอินโดนีเซีย มีจุดเด่นอยู่ที่ฟีเจอร์ “Jagat Coin Hunt” เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ล่าสมบัติในโลกเสมือนจริง รวบรวมเหรียญและรางวัลที่สามารถแปลงเป็นมูลค่าในโลกความจริงได้ โดยการผสมผสานเทคโนโลยีความจริงเสริม (AR) เกม และบล็อกเชนเข้าด้วยกัน ด้วยรูปแบบการเล่นที่โต้ตอบได้และโอกาสในการรับรางวัลเป็นเงินจริงๆ Jagat Coin Hunt จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ผู้เล่นสามารถออกสำรวจสถานที่ต่าง ๆ เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ และค้นหาสมบัติที่ซ่อนอยู่ พร้อมทั้งเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลไปพร้อมกัน ทำให้เกมนี้เป็นมากกว่าเกมทั่วไป
สำหรับในประเทศไทย แอปฯ Jagat เข้ามาเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2568 ยอดดาวน์โหลดเป็นอันดับ 1 เป็นหลักหมื่น เปิดให้เล่นในสถานที่สาธารณะ 5 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และ ชลบุรี (พัทยา) และมีผู้ใช้งานออกมายืนยันว่าได้รับเงินจริง โดยเหรียญจะมีทั้งหมด 3 สี คือ เหรียญทองแดง มูลค่า 500 – 2,000 บาท เหรียญเงิน มูลค่า 20,000 บาท และเหรียญทองมูลค่าถึง 200,000 บาท แต่ก็ได้ก่อให้เกิดความวิตกกังวลของผู้อื่น ด้วยวิธีการหาเหรียญจะแชร์ตำแหน่ง เป็นรัศมีวงกลม และจุดศูนย์กลางที่มีคนนำเหรียญไปวางตามจุดต่างๆ ในที่เปลี่ยว หรือตามบ้านผู้คนในยามวิกาล จะโดนข้อหาบุกรุกได้

”พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ” ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยทางไซเบอร์ และความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เนื่องจากการเข้าใช้งานแอปฯ Jagat จะต้องมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและยังสามารถเข้าถึงพิกัดของผู้เล่นได้ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ เร่งตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องกับแอปฯ Jagat ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ที่ทำการประชาสัมพันธ์กิจกรรมล่าเหรียญ Jagat ว่ามีความปลอดภัยและได้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่
จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังจุดที่มีการแสดงพิกัดของเหรียญในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พบว่ามีชายวัยรุ่น 2 คน ตามหาเหรียญ โดยแจ้งว่าทราบกิจกรรมดังกล่าวจากสังคมออนไลน์ จึงออกติดตามหาเหรียญแต่ไม่พบ จึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงข้อกฏหมายและวิธีปฏิบัติตัวเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ก่อนที่วัยรุ่นดังกล่าวจะเดินทางกลับ และได้วางมาตรการดูแลความปลอดภัย และให้ความรู้กับประชาชนที่ร่วมกิจกรรม เพื่อให้ปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง
“การเข้าร่วมกิจกรรมตามล่าหาเหรียญ Jagat อาจเข้าข่ายความผิดฐานบุกรุก ต้องโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและระบุพิกัดตำแหน่งปัจจุบันที่ท่านอยู่ ซึ่งอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้เข้าร่วมกิจกรรมเองอีกด้วย จึงขอให้พึงระวังไม่กระทำผิดกฎหมายขณะเข้าร่วมกิจกรรม”