สภาพอากาศประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อน อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น และจะร้อนจัดในเดือนเมษายน โดยเมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานอุณหภูมิสูงสุดบริเวณประเทศไทย วัดได้ 40.1 องศาเซลเซียส บริเวณภาคเหนือ ในพื้นที่อ.เถิน จ.ลำปาง ขณะที่อุณหภูมิสูงสุด บริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑล วัดได้ 37.1 องศาเซลเซียส ในพื้นที่อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
แม้ยังไม่เข้าสู่เดือนเมษายน แต่หลายพื้นที่ในเดือนมีนาคม สัมผัสได้ถึงอากาศร้อน โดยเฉพาะตอนกลางวัน และล่าสุด “ดร.สนธิ คชวัฒน์” ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย ได้ออกมาโพสต์เตือน “อากาศร้อนสุดขั้วในเดือนเมษายน บางพื้นที่สูงถึง 44 องศาเซลเซียส..ระวังตัวด้วย” อ้างอิงจากการคาดการณ์โดยองค์กรอุตุนิยมวิทยาโลก และกรมอุตุนิยมวิทยาของประเทศไทยคาด ว่าเดือนเมษายน เป็นเดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของประเทศไทย
จากการวิเคราะห์ข้อมูลคาดว่า ปีนี้กรุงเทพมหานคร จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงเวลากลางวันประมาณ 35 องศาเซลเซียส หรือ 95 องศาฟาเรนไฮต์ และคาดว่าตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2568 เป็นต้นไป ภาคเหนือ จะมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 37-39 องศาเซลเซียส และจะมีค่าสูงสุดในบางพื้นที่ระหว่าง 42-44 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในจังหวัดภาคเหนือ พื้นที่เป็นแอ่งกะทะ เช่น จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก เชียงใหม่ ลำปาง อุตรดิตถ์ เลย สุโขทัย เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำ หรืออากาศร้อนจากดวงอาทิตย์ปกคลุม แถบจังหวัดภาคเหนือ
นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่มีลมพัดจากทิศตะวันออกเฉียงใต้และลมจากทิศใต้ พัดพาความชื้นจากทะเลอ่าวไทย เข้ามาปกคลุม ทำให้มีอา กาศร้อนผสมกับความชื้นสัมพัทธ์สูง เกิดอากาศร้อนอบอ้าวโดยเฉพาะในพื้น ที่จังหวัดที่เป็นหุบเขาหรือมีภูเขาล้อมรอบ เนื่องจากมีลมพัดผ่านได้น้อย
พร้อมระบุว่า ปีนี้ประเทศไทยจะมีอากาศร้อนเป็นลำดับที่ 3 ในรอบ 70 ปี รองจากปี 2567 และ2566 โดยในเดือนเมษายนปี 2567 มีอุณหภูมิสูงสุดที่ 44.6 องศาเซลเซียส ในจังหวัดลำปาง และจังหวัดที่มีอากาศร้อนที่มีอุณหภูมิสูงสุดเกิน 44 องศาเซลเซียส คือ จังหวัดลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก และอุดรธานี
“ตั้งแต่นี้ต่อไป จะเกิดอากาศจะร้อนสุดขั้วมากขึ้น เนื่องจากประเทศต่างๆบนโลกได้ปล่อยแก๊สเรือนกระจกสู่บรรยากาศโลก ทำให้อุณภูมิในบรรยากาศโลกสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมไปแล้ว ดังนั้นในเดือนเมษายนของทุกปีในทุกประเทศที่ตั้งอยู่ในแถบเส้นศูนย์สูตรของโลก จะมีอุณหภูมิสูงสุดเกิน 44 องศาเซลเซียสขึ้นไป
ประชาชนจะต้องปรับตัวในฤดูร้อน ต้องระวังโรคลมแดด หรือฮีทสโตรก ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป โดยร่างกายจะมีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ร่างกายระบายความร้อนไม่ทัน เพราะมีการสูญเสียน้ำจากร่างกายออกไปทางเหงื่อเป็นจำนวนมาก จะมีอาการซึม ชัก หรือเซลของอวัยวะ ทำงานผิดปกติ.