สืบนครบาล บุกทลายคลังแสงปืนเถื่อนกลางกรุง รวบ “กิ๊บ ประธานเพื่อน GUN สำคัญเสมอ” ผลิดจำหน่ายปืนเถื่อน ผ่านกลุ่มปิดทางโซเชียล ยึดอาวุธปืน 19 กระบอก เคยถูกจับเข้าคุกมาแล้ว ไม่เคยเข็ด อ้างไม่มีงานทำ
ปัจจุบันสถิติอาชญากรรม มีการนำอาวุธปืนไปก่อเหตุในลักษณะอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายเพิ่มมากขึ้น อาทิ เหตุกราดยิง นักศึกษาช่างนำอาวุธปืนไปใช้ยิงคู่อริ ซึ่งหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ใช้ความพยายามสืบสวนขยายผลจนทราบว่าผู้ก่อเหตุซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน เพื่อมาก่อเหตุผ่านช่องทางออนไลน์
ต่อมาชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลออกแกะรอยสืบสวน จนพบ “ บุคคล เคยมีประวัติเคยถูกจับกุม ในความผิดฐานเกี่ยวกับการลับลอบจำหน่ายอาวุธปืนผิดกฎหมายให้กลุ่มผู้ซื้อ ผ่านกลุ่มลับผ่านเพจทางออนไลน์ ซึ่งต้องรีบสืบสวนจับกุมให้ได้โดยเร็ว ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล ดำเนินการจับกุมนายโชติธนภัทร์ หรือกิ๊บ ผาลา อายุ 39 ปี โดยกล่าวหาว่า ” มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ทำประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปีนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต ” และมีประวัติเคยถูกจับกุมคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน อยู่ระหว่างการประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ หลังได้รับการประกันตัว ก็ยังคงมีพฤติกรรมลับลอบกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวอยู่เช่นเดิม จึงได้ทำการสืบสวนหาสถานที่หลบซ่อนตัว
กระทั่งเมื่อวันที่ 10-11 ต.ค. 2567 ทราบว่านายโชติธนภัทร์ หลบหนีมาเช่าห้องพักอาศัยอยู่ที่โครงการเอื้ออาทรลาดกระบัง 2 เขตลาดกระบัง กทม. และพบตัวขณะกำลังเดินอยู่บริเวณลานจอดรถหน้าอาคาร พร้อมของกลางในรถยนต์กระบะและภายในห้องพัก มีปืนบีบีกันแปลง ขนาด.38 จำนวน 5 กระบอก, อาวุธปืนหักลำไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 จำนวน 12 กระบอก ,อาวุธปืนหักลำไทยประดิษฐ์ ขนาด 410 จำนวน 2 กระบอก รวมถึงกระสุนปืนหลายขนาด 100 กว่านัด และชิ้นส่วน อุปกรณ์ประกอบปืน
ทำผิดซ้ำซาก ไม่เข็ดหลาบ ประกันตัวชั้นอุทธรณ์ ก็ไม่สน
นายโชติธนภัทร์ ให้การว่าเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผ่านการศึกษานอกโรงเรียน เดิมทำงานเป็นฝ่ายผลิตของโรงงานผลิตยางรถยนต์ชื่อดังประมาณ 10 ปี ต่อมาปี 2561 ด้วยความที่เป็นคนชอบอาวุธปืน จึงได้ลองซื้อปืนลูกซองหักลำมาเก็บไว้ ต่อมาได้นำปืนไปลองโพสต์ขายผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว และสั่งซื้อปืนบีบีกัน นำมาดัดแปลงจากเดิมสั่งทีละกระบอก มาเป็นสั่งครั้งละ 70 ถึง 100 กระบอก มีรายได้เดือนละกว่าสองถึงสามแสนบาท จนถูกจับกุมเมื่อปี 2562 รับโทษจำคุก 2 ปี
เมื่อพ้นโทษออกมาได้หันมาทำไร่ทำสวน แต่ก็ยังแอบสั่งซื้ออาวุธปืน ก่อนที่ปี 2564 ถูกจับกุมอีก หลังพ้นโทษ เพราะไม่มีงานทำ และยังมีอาวุธปืนที่ซุกซ่อนอยู่ในบ้านอีก 1 กระบอก จึงโพส์ตขายผ่านเฟซบุ๊ก จนถูกจับกุมตัว ซึ่งคดีอยู่ระหว่างประกันตัวชั้นอุทธรณ์ แต่ยังลักลอบจำหน่ายอาวุธปืน ดัดแปลงอาวุธปืนบีบีกัน ผ่านทางเฟซบุ๊ก และตั้งตนเองเป็นประธาน “เพื่อน GUN สำคัญเสมอ” มีการขายเสื้อและขายปืน นำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เที่ยวเตร่ และเปลี่ยนสถานที่พักเพื่อหลบหนีการจับกุม
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า อาวุธปืนที่ตรวจค้นพบ เป็นต้นตอที่คนร้ายจะนำไปก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ ส่งผลร้ายกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ในสังคมได้ ส่วนผู้ที่ลักลอบขายอาวุธปืน หากซื้อขายอาวุธปืนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ผู้ขายมีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท หากประชาชนมีเบาะแสการลักลอบขายปืน สามารถติดต่อแจ้งมาได้ที่เพจ สืบนครบาล IDMB ได้ตลอดเวลา.