รู้ทันธุรกิจขายตรง ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ เพราะอยากร่ำรวย มั่งคั่ง

ดิไอคอนกรุ๊ป” ของบอสพอส วรัตน์พล วรัทย์วรกุล จะเข้าข่ายเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ทำผิดกฎหมายหรือไม่? ต้องติดตามกันอีกยาว เพราะขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบหาหลักฐานต่างๆ ทั้งการตรวจค้นบริษัทในพื้นที่หลายจุด เพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงว่า บริษัทมุ่งเน้นจำหน่ายสินค้า หรือเน้นการระดมทุน หรือประกอบกิจการเพื่อวัถตุประสงค์ใดกันแน่ แล้วทำไมมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก และทยอยเพิ่มมากขึ้น มูลค่าความเสียหายน่าจะทะลุ 200 ล้าน

แล้ว “แชร์ลูกโซ่” คืออะไร “รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล” รองอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต อธิบายให้ความกระจ่างและสะกิดไม่ให้คนตกเป็นเหยื่อ ว่า ธุรกิจขายตรงที่ชักชวนคนร่วมลงทุน ทั้งเรื่องของคนที่ตกเป็นเหยื่อร่วมลงทุนในธุรกิจ หรือมีการจัดการอบรม ให้ร่วมนำสินค้ามาขายตรง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดในประเทศไทยและโลกใบนี้มานานพอสมควรแล้ว เพียงแต่ว่ามีการเปลี่ยนรูปแบบ เช่น เมื่อก่อนไม่มีการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เป็นรูปแบบธุรกิจขายตรงชักชวนร่วมลงทุนแบบเห็นหน้า  

แต่ปัจจุบันธุรกิจหล่านี้แฝงไปด้วยการชักชวนร่วมลงทุน แล้วยังแฝงไปด้วยเรื่องไม่ถูกต้อง ไม่โปร่งใส ไม่ตรงไปตรงมา เช่น เวลามีคนมาเชื่อใจร่วมลงทุน หรือฟังแล้วดูน่าเชื่อถือ ก็จะชักชวนญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงมาร่วมลงทุนมากยิ่งขึ้น จึงทำให้คนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก คำถาม ก็คือแนวคิดอะไร จึงชวนคนให้มาร่วมอบรม ร่วมลงทุนได้อย่างแพร่หลาย

ทุกคนอยากมีฐานะ มั่งมีร่ำรวย ตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่

เพราะโดยปกติธรรมชาติของมุนษย์ อยากมี อยากได้ อยากเป็น ตามแนวทฤษฏีความกดดันทางสังคม ด้านอาชญาวิทยา ทุกคนอยากมีฐานะ หน้าที่การงานที่ดี อยากมีความมั่งมี ร่ำรวย แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะข้อจำกัดโอกาสด้านการศึกษา โอกาสในการหางานทำ เพราะฉะนั้นเมื่อเขารู้ช่องโหว่ ช่องว่างตรงนี้ ก็จี้ไปยังจุดความเป็นมนุษย์ ให้มาร่วมลงทุน โดยใช้เงินไม่มาก แต่ผลตอบแทนดี ผลประกอบการดี

นอกจากนั้นจะอาศัยความน่าเชื่อถือ โดยการเชิญอินฟลูเอนเซอร์ เชิญดารา นักแสดงมาพูด หรือโชว์ความมั่งมี ไม่ว่าจะเป็นการโชว์รถซุเปอร์คาร์  โชว์ที่ทำงานดีๆ โชว์ว่ามีบ้านที่หรูหรา หรือการจ้างอินฟูลเอนเซอร์มาพูดผ่านสื่อ และมีการตัดต่อเป็นคลิปมาบรรยายเรื่องราวต่างๆ สิ่งเหล่านี้ ยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือ ยิ่งทำให้คนที่กำลังหาช่องทางลงทุนทำธุรกิจ หรือกำลังจะตัดสินใจ

ขณะเดียวกันเวลามาเจอสิ่งที่อินฟลูเอนเซอร์ ดารานักแสดงมาพูดนำเสนอ ก็ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ประกอบกับพบว่าอาจมีตำแหน่งหยิบยื่นให้กับอินฟลูเอนเซอร์ หรือดารานักแสดง ยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทนั้นๆ จึงทำให้เหยื่อหลงเชื่อได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นก่อนจะตัดสินทำธุรกิจ ร่วมลงทุนสินค้าใดๆ ก็ตาม อาจจะต้องคิดพิจารณาให้รอบคอบ และมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เพราะว่าธุรกิจมีความเสี่ยงทั้งนั้น.